ปะการัง
หัวของปะการังหนึ่งๆโดยปรกติจะสังเกตเห็นเป็นสิ่งมีชีวิตเดี่ยวๆอันหนึ่ง แต่ที่จริงนั้นมันประกอบขึ้นมาจากสิ่งมีชีวิตเดี่ยวๆขนาดเล็กนับเป็นพันๆโพลิฟโดยในทางพันธุ์ศาสตร์แล้วจะเป็นโพลิฟชนิดพันธุ์เดียวกันทั้งหมด โพลิฟจะสร้างโครงสร้างแข็งที่มีลักษณะเฉพาะของปะการังแต่ละชนิด หัวของปะการังหนึ่งๆมีการเจริญเติบโตโดยการสืบพันธุ์แบบไม่ใช้เพศของโพลิฟเดี่ยวๆ แต่ปะการังก็สามารถสืบพันธุ์ออกลูกหลานโดยการใช้เพศกับปะการังชนิดเดียวกันด้วยการปล่อยเซลล์สืบพันธุ์พร้อมๆกันตลอดหนึ่งคืนหรือหลายๆคืนในช่วงเดือนเพ็ญ
แม้ว่าปะการังจะสามารถจับปลาและสัตว์เล็กๆขนาดแพลงตอนได้โดยใช้เข็มพิษ (เนมาโตซิสต์) ที่อยู่บนหนวดของมัน แต่ส่วนใหญ่แล้วปะการังจะได้รับสารอาหารจากสาหร่ายเซลล์เดียวที่สังเคราะห์แสงได้ที่เรียกว่าซูแซนทาลา นั่นทำให้ปะการังทั้งหลายมีการดำรงชีวิตที่ขึ้นตรงต่อแสงอาทิตย์และจะเจริญเติบโตได้ในน้ำทะเลใสตื้นๆโดยปรกติแล้วจะอาศัยอยู่บริเวณที่มีความลึกน้อยกว่า 60 เมตร ปะการังเหล่านี้ถือว่าเป็นผู้สร้างโครงสร้างทางกายภาพของแนวปะการังที่พัฒนาขึ้นมาในทะเลเขตร้อนและเขตกึ่งร้อนอย่างเช่นเกรตแบริเออร์รีฟบริเวณนอกชายฝั่งของรัฐควีนส์แลนด์ของประเทศออสเตรเลีย แต่ก็มีปะการังบางชนิดที่ดำรงชีวิตอยู่ได้โดยไม่เกี่ยวข้องกับสาหร่ายเนื่องจากอยู่ในทะเลลึกอย่างในมหาสมุทรแอตแลนติกและมหาสมุทรแปซิฟิก เช่น ปะการังสกุล “โลเฟเลีย” ที่อยู่ได้ในน้ำเย็นๆที่ระดับความลึกได้มากถึง 3000 เมตร[3] ตัวอย่างของปะการังเหล่านี้สามารถพบได้ที่ดาร์วินมาวด์ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเคพแวร็ธในสก๊อตแลนด์ และยังพบได้บริเวณนอกชายฝั่งรัฐวอชิงตันและที่เกาะเอลิวเตียนของอะแลสกา
ชนิดของปะการังปะการังชนิดที่สร้างแนวปะการัง เช่น
ปะการังขาว
โคโลนีมีลักษณะเป็นช่อที่มีกิ่งก้านแตกออกคล้ายเขากวาง มีตัวปะการังที่อยู่ปลายยอดของกิ่งมีขนาดใหญ่และมักมีสีสันแตกต่างกัน ส่วนตัวปะการังด้านข้างมีผนังเจริญดีเฉพาะด้านนอกทำให้มีลักษณะคล้ายเกล็ด ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของแต่ละโคโลนีแตกต่างกัน อาจมีความกว้างมากกว่าหนึ่งเมตร ปะการังกลุ่มนี้พบอยู่ทั่วไปในเขตน้ำขึ้นน้ำลงและลึกลงไปจนถึงแนวนอกสุดของ แนวปะการังทั้งในอ่าวไทยและฝั่งมหาสมุทรอินเดีย ปะการังเขากวางมีอัตราการเจริญเติบโตสูง ส่วนมากเป็นกระเทย และเซลล์สืบพันธุ์ผสมกันในน้ำทะเล ปะการังกลุ่มนี้มีความสวยงามแต่มีความเปราะบางสูง หากนักดำน้ำไม่ระมัดระวัง อาจทำให้ปะการังแตกหักเป็นชิ้นส่วนปะการัง และมักจะตายในเวลาต่อมาเนื่องจากถูกทรายกลบ ปะการังกลุ่มนี้มีความอ่อนไหวมากต่อการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิน้ำทะเล ซึ่งจะพบว่ามีการตายเป็นจำนวนมากจากปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวที่รุนแรงในอ่าว ไทยในปี พ.ศ. 2541
ปะการังสมอง
ปะการัง สมองร่องยาว มีลักษณะโคโลนีเป็นก้อนและมีร่องเป็นแนวคดเคี้ยวไปมาทำให้ดูคล้ายก้อนสมอง ขนาดความกว้างของร่องประมาณ 4-6 มิลลิเมตร ภายในร่องมีโฟลิปอาศัยอยู่เรียงกันเป็นแนวตามตามความยาวของร่อง ซึ่งอาจแยกออกไปหลายทางหรือวกวนไปมา ปะการังที่มีชีวิตมักมีเนื้อเยื่อสีเขียว ปะการังสมองร่องยาวเป็นกระเทย และเซลล์สืบพันธุ์ผสมกันในน้ำทะเล ส่วนใหญ่พบอยู่ในบริเวณที่ตื้นของปะการัง
ปะการังดาว
โคโลนีมีลักษณะเป็นก้อน ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 20 เซนติเมตร หินปูนตัวปะการังมีขนาดต่างกัน ผนังกั้นที่จัดเรียงตัวในแนวรัศมีไม่เจริญ แต่บนผนังกั้นรอบหินปูนตัวปะการังมีหนาม ขณะยังมีชีวิตมักมีสีน้ำตาล สีเหลืองหรือสีเขียว ปะการังชนิดนี้เป็นกระเทย เซลล์สืบพันธ์ผสมกันในน้ำทะเล พบเจริญแทรกอยู่ในแนวปะการังบางแห่งทั้งในอ่าวไทยและฝั่งมหาสมุทรอินเดีย
ปะการังหิน
ลักษณะทั่วไป
เป็นสัตว์ทะเลขนาดเล็กที่อยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ลำตัวมีรูปทรงกระบอกกลวง ปากอยู่ตรงกลาง มีหนวดอยู่สองข้าง ด้านที่เป็นฐานไม่มีช่องเปิดยึดติดก้อนหินและระหว่างตัวปะการังด้วยกันเอง ปากของตัวปะการังนอกจากจะใช้กินอาหารแล้วยังทำหน้าที่ในการขับถ่ายของเสีย อีกด้วย สัตว์เล็ก ๆแต่ละตัวจะทำหน้าที่ผลิตหินปูนเพิ่มขึ้นทีละน้อย ทำนองเดียวกับตัวปลวกสร้างจอมปลวก แต่มีวิธีการผิดกัน ปลวกต้องไปหาวัสดุจากภายนอกสร้างรัง ปะการังสามารถผลิตวัสดุจากตัวของมันเองโดยมีสาหร่ายเซลเดียวพวกซูแซนทอลลี อาศัยอยู่ในเนื้อเยื่อของปะการังช่วยผลิตหินปูน โดยขับสารแคลเซียมจากน้ำทะเล การสืบพันธุ์โดยวิธีแตกหน่อเช่นเดียวกับกัลปังหา และการวางไข่เป็นฤดูกาลเพียง 1-2 ปี ต่อ 1 ครั้ง แนวปะการังขนาดใหญ่ที่พบเห็นตามท้องทะเล
เป็นสัตว์ทะเลขนาดเล็กที่อยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ลำตัวมีรูปทรงกระบอกกลวง ปากอยู่ตรงกลาง มีหนวดอยู่สองข้าง ด้านที่เป็นฐานไม่มีช่องเปิดยึดติดก้อนหินและระหว่างตัวปะการังด้วยกันเอง ปากของตัวปะการังนอกจากจะใช้กินอาหารแล้วยังทำหน้าที่ในการขับถ่ายของเสีย อีกด้วย สัตว์เล็ก ๆแต่ละตัวจะทำหน้าที่ผลิตหินปูนเพิ่มขึ้นทีละน้อย ทำนองเดียวกับตัวปลวกสร้างจอมปลวก แต่มีวิธีการผิดกัน ปลวกต้องไปหาวัสดุจากภายนอกสร้างรัง ปะการังสามารถผลิตวัสดุจากตัวของมันเองโดยมีสาหร่ายเซลเดียวพวกซูแซนทอลลี อาศัยอยู่ในเนื้อเยื่อของปะการังช่วยผลิตหินปูน โดยขับสารแคลเซียมจากน้ำทะเล การสืบพันธุ์โดยวิธีแตกหน่อเช่นเดียวกับกัลปังหา และการวางไข่เป็นฤดูกาลเพียง 1-2 ปี ต่อ 1 ครั้ง แนวปะการังขนาดใหญ่ที่พบเห็นตามท้องทะเล
ปะการังชนิดไม่สร้างปะการัง เช่น
ปะการังสีดำ
ปะการังสีดำอาศัยอยู่รวมกันเป็นโคโลนี มีลักษณะแตกต่างจากปะการังโดยทั่วไปคือมีการสร้างฐานรองรับ โพลิปเป็นสารจำพวกเขาสัตว์เช่นเดียวกับกัลปังหา แต่จำนวนหนวดแต่ละละโพลิปมีเพียง 6 เส้น รูปร่างของโคโลนีมีลักษณะคล้ายต้นไม้ ขนาดความสูง 2 -3 เมตร แต่โพลิปมีขนาดเล็กเพียง 2 -3 มิลลิเมตรเท่านั้น ปะการังชนิดนี้มักอาศัยอยู่ในบริเวณที่ลึกของแนวปะการัง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น